เหมา เจ๋อตง
เหมา เจ๋อตง

เหมา เจ๋อตง

เหมา เจ๋อตง หรือ เหมา เจ๋อตุง (จีนตัวย่อ: 毛泽东; จีนตัวเต็ม: 毛澤東; พินอิน: Máo Zédōng; เวด-ไจลส์: Mao Tse-tung; 26 ธันวาคม พ.ศ. 2436 – 9 กันยายน พ.ศ. 2519) หรือที่นิยมเรียกอีกอย่างว่า ท่านประธานเหมา เป็นนักปฏิวัติลัทธิคอมมิวนิสต์ชาวจีนที่กลายเป็นบิดาผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน(PRC) ซึ่งเขามีบทบาทเป็นประธานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตั้งแต่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1949 จนกระทั่งเขาถึงแก่อสัญกรรมในปี ค.ศ. 1976 ด้วยอุดมการณ์ลัทธิมากซ์-เลนิน ทฤษฎีของเขา ยุทธศาสตร์การทหาร และนโยบายทางการเมืองของเขามักเป็นที่รู้จักกันโดยรวมคือ ลัทธิเหมาเหมาเป็นลูกชายของชาวนาเจ้าของที่ดินใน Shaoshan, มณฑลหูหนาน เขาเป็นฝ่ายชาตินิยมจีนและมีทัศนคติต่อต้านจักรวรรดินิยมในช่วงชีวิตแรกของเขา และได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ของการปฏิวัติซินไฮ่ในปี ค.ศ. 1911 และขบวนการ 4 พฤษภาคมในปี ค.ศ. 1919 หลังจากนั้นเขาได้นำลัทธิมากซ์-เลนินมาใช้ ในขณะที่ทำงานในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และกลายเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน(CPC) ได้นำการก่อการกำเริบเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงในปี ค.ศ. 1927 ในช่วงสงครามกลางเมืองจีนระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีน เหมาได้ช่วยในการก่อตั้งกองทัพกรรมากรและชาวนาจีนหรือก็คือกองทัพจีนแดงในปัจจุบัน ภายใต้การนำโดยนโยบายที่ดินที่หัวรุนแรงของเจียงซี-โซเวียต และท้ายที่สุดก็กลายเป็นหัวหน้าของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงการเดินทัพทางไกล แม้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเป็นพันธมิตรชั่วคราวกับพรรคก๊กมินตั๋งภายใต้แนวร่วมที่สองในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง(ค.ศ. 1937-1945) สงครามกลางเมืองจีนก็ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากญี่ปุ่นได้ยอมจำนน และในปี ค.ศ. 1949 กองทัพของเหมาเอาชนะรัฐบาลฝ่ายชาตินิยมมาได้ ซึ่งก็ได้หลบหนีไปยังเกาะไต้หวันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 เหมาได้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นรัฐที่มีพรรคเดียวที่ถูกควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในปีต่อมา เขาได้ส่งเสริมการควบคุมผ่านรณรงค์ต่อต้านเจ้าของที่ดิน การปราบปราม "ผู้ที่ต่อต้านการปฏิวัติ" และรณรงค์สามต่อต้านและห้าต่อต้าน และได้รับชัยชนะทางจิตวิทยาในสงครามเกาหลี ซึ่งแม้ว่าจะมีชาวจีนหลายล้านคนได้เสียชีวิตลงก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 ถึง ค.ศ. 1958 เหมาก็ได้มีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้เศรษฐกิจที่ได้วางแผนเอาไว้ในประเทศจีน สร้างรัฐธรรมนูญฉบับแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดตัวโครงการอุตสาหกรรม และริเริ่มโครงการ"ระเบิดสองลูก หนึ่งดาวเทียม" ในอีกทางหนึ่ง ในปี ค.ศ. 1955-1957 เหมาได้เปิดตัวขบวนการซูฟานและรณรงค์ต่อต้านฝ่ายขวา ซึ่งมีผู้คนอย่าง 550,000 คนที่ถูกข่มเหงรังแกในช่วงหลัง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกปัญญาชนและผู้คัดค้าน ในปี ค.ศ. 1958 เขาได้เปิดนโยบายการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า ที่มุ่งเป้าหมายไปที่เศรษฐกิจของจีนอย่างรวดเร็วจากภาคเกษตรกรรมสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งนำไปสู่ภาวะทุพภิกขภัยที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และมีประชาชนเสียชีวิตถึง 20-46 ล้านคนในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1958 และ ค.ศ. 1962 ในปี ค.ศ. 1963 เหมาเปิดตัวขบวนการนักศึกษาลัทธิสังคมนิยม และในปี ค.ศ. 1966 เขาได้ริเริ่มการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเป็นโครงการที่จะลบส่วนหนึ่งของ"การต่อต้านการปฏิวัติ" ในสังคมจีนซึ่งกินเวลานานถึง 10 ปี และที่ดูโดดเด่นที่สุดด้วยการต่อสู้ทางชนชั้นอย่างรุนแรง การทำลายศิลปวัตถุทางวัฒนธรรม และยกย่องบูชาต่อเหมาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน มีประชาชนสิบล้านคนถูกรังแกข่มเหงในช่วงการปฏิวัติ ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนโดยประมาณตั้งแต่หลายแสนถึงล้านคนรวมไปถึงหลิว เส้าฉี ประธานคนที่สองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายหลังจากล้มป่วยมาหลายปี เหมาได้เกิดอาการหัวใจวายในปี ค.ศ. 1976 และถึงแก่อสัญกรรมเมื่ออายุ 82 ปี ในช่วงยุคสมัยเหมา ประชากรชาวจีนได้เติบโตเพิ่มขึ้นจากประมาณ 550 ล้านคนเป็นมากกว่า 900 ล้านคน ในขณะที่รัฐบาลไม่ได้บังคับใช้นโยบายการวางแผนครอบครัวอย่างเคร่งครัด จึงได้บังคับให้ผู้สืบทอดต่อจากเหมาอย่างนาย เติ้ง เสี่ยวผิง ต้องใช้นโยบายที่เข้มงวดเพื่อรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้นมากเกินไปในฐานะที่เป็นคนที่ได้มีการถกเถียงกันว่า เหมาเป็นบุคคลที่สำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ เขายังเป็นที่รู้จักกันคือ นักปัญญาชนทางการเมือง นักทฤษฎี นักยุทธศาสตร์การทหาร กวี และผู้มีวิสัยทัศน์ ในยุคสมัยเหมา จีนได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามเกาหลี ความขัดแย้งของจีน-โซเวียต สงครามเวียดนาม และการเถลิงอำนาจของเขมรแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี ค.ศ. 1972 เหมาได้ต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ริชาร์ด นิกสัน ในกรุงปักกิ่ง เป็นการส่งสัญญาณการเริ่มต้นนโยบายการเปิดประเทศจีนสู่โลก ผู้สนับสนุนต่างยกย่องเขาว่าเป็นผู้ขับไล่ลัทธิจักรวรรดินิยมออกไปจากประเทศจีน ปรับปรุงประเทศให้มีความทันสมัย และสร้างให้กลายเป็นมหาอำนาจของโลก ส่งเสริมสถานะสตรี ปรับปรุงเรื่องการศึกษาและสุขภาพ เช่นเดียวกับการเพิ่มอายุขัยโดยเฉลี่ยของชาวจีน ในทางกลับกัน ระบอบการปกครองของเขาก็ถูกเรียกว่าเป็นเผด็จการและระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ และถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการกดขี่ข่มเหงมวลชนและทำลายศิลปวัตถุทางศาสนาและวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของเหยื่อจำนวนมากโดยมีการประมาณตั้งแต่ 30 ถึง 80 ล้านคนผ่านทางความอดอยาก กดขี่ข่มเหง นักโทษแรงงาน และการประหารชีวิตหมู่

เหมา เจ๋อตง

ลายมือชื่อ
คู่สมรส หลัว อีซิ่ว (1907–1910)
หยาง ไคฮุ่ย (1920–1930)
เฮ่อ จื่อเจิน (1930–1937)
เจียง ชิง (1939–1976)
ก่อนหน้า เฉิน ตู๋สิ้ว
พรรคการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์จีน
เกิด 26 ธันวาคม พ.ศ. 2436
มณฑลหูหนาน ประเทศจีน
ถัดไป หลิว เซ่าฉี
เสียชีวิต 9 กันยายน พ.ศ. 2519 (82 ปี)
กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ศาสนา ไม่นับถือศาสนา